ANTFLY

จุดเริ่มต้นสำหรับผู้ที่สนใจ Forex, Cryptocurrency และ IT

เมนูหลักเว็บไซต์
บริการรับทำ SEO
เทรด FOREX
วิธีเล่นบาคาร่าออนไลน์
รีวิวยิงปลา เทคนิคการเล่นเกมยิงปลา

COPYRIGHT © 2013 ANTFLY.NET สงวนลิขสิทธิ์

รูปแบบการลงทุนกับคอนโดแบบ “ง่ายๆ” แต่ได้กำไร!

เมษายน 15, 2019 By Antfly

ใครที่คิดอยากลงทุนกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด แต่ยังไม่รู้ช่องทางว่าจะทำอย่างไร ลงทุน รูปแบบใด ถึงจะได้กำไรมาแบบเป็นกอบเป็นกำ วันนี้เรามีรูปแบบการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์อย่างง่ายสำหรับลงทุนคอนโดมาฝากสมาชิกชาวมดบินทุกท่าน โดยเราเชื่อว่าหลายคนคงรู้จกัการลงทุนในรูปแบบการขายคอนโดเสียส่วนใหญ่แต่ความเป็นจริงการสร้างรายได้จากกลุ่มอสังหาประเภทคอนโดมีมากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะมาก มาดูกันเลย

รูปแบบการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโด

การขายคิวจอง คอนโดหลายโครงการ ล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่สวยงาม ทั้งส่วนของห้องและทำเลโดยรอบ เป็นที่หมายปองของเหล่าของนักธุรกิจหรือนักลงทุนในการเลือกจับจองให้เร็วที่สุด ด้วยความว่องใวของนกัลงทุนหลายคน จึงใช้โอกาสที่มีรีบหาคิวจอง คอนโดคิวต้นๆมาเพื่อทำการขายคิวจองให้แก่ผู้ที่สนใจและมาช้ากว่า แน่นอนว่าสำหรับคอนโดสวยๆและทำเลงามๆก็ต้องยอมจ่ายทุกราคา ถือเป็นการลงทุน ที่คุ้มค่าและได้กำไรง่ายๆ เพราะคนที่มาจองคอนโดนอกจากจะมีกำลังซื้อ ก็ยังหวังที่จะได้ส่วนต่างจากราคาที่เพิ่มขึ้นของอสังหาฯ (เก็งราคา) ดังนั้นการซื้อต่อใบจองก็นับเป็นแค่ Cost ทางธุรกิจหรือใบผ่านทางที่ไม่ต้องคิดมาก

Filed Under: Uncategorized

การเริ่มต้นทำธุรกิจในยุคไอที ทำอย่างไรให้สำเร็จ

พฤศจิกายน 21, 2018 By Antfly

การเริ่มต้นทำธุรกิจในปัจจุบันนั้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง นั่นคือ เรื่องของเทคโนโลยี เพราะยุคนี้คือ ยุคของโลกอินเทอร์เน็ตอย่างแท้จริง แม้กระทั่งนโยบายรัฐบาล นั่นคือ Thailand 4.0 ก็มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆมาช่วยในการทำธุรกิจ เพื่อให้ก้าวหน้า ก้าวทันเศรษฐกิจของโลก และมีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเริ่มต้นทำธุรกิจในยุคไอทีกัน

ทำธุรกิจในยุคดิจิตัลอย่างไรให้สำเร็จ

1.แสวงหาตลาดใหม่ๆ

เนื่องจากในยุคไอที ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีความต้องการสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังสามารถเลือกดูสินค้าต่างๆ แค่เพียงคลิกเข้าไปในอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เพราะฉะนั้นการที่เราแสวงหาตลาดใหม่ๆ จะช่วยให้เรานั้นสามารถขยายฐานสินค้าหรือบริการเข้าไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการได้มากขึ้น ช่วยเปิดเส้นทางทางธุรกิจใหม่ๆได้

2.ค้นหาการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการในแบบของตัวเอง

เพราะผู้บริโภคในยุคไอที จะให้ความสนใจกับความแปลกใหม่ น่าสนใจของสินค้า ต้องเสนอได้ตรงกับความต้องการ กระชับ เข้าใจง่าย และเข้าถึงง่ายด้วย ราคาต้องคุ้มค่ากับคุณภาพ เมื่อคุณสามารถทำให้สินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่ประทับใจได้แล้ว คราวนี้ก็จะทำธุรกิจได้อีกยาวนาน

3.ประเมินความเสี่ยงให้รอบด้าน

เมื่อเรากำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือบริการสักอย่าง เราควรประเมินในเรื่องของความพร้อมด้านงบประมาณ บุคลากร การบริหารงาน แนวทางการขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต้องดูว่า คู่แข่งของสินค้าหรือบริการของเรานั้น มีการขายสินค้าหรือบริการอย่างไรบ้าง โดยการที่เราประเมินความเสี่ยงทางด้านธุรกิจ จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจของเรานั้นมีข้อผิดพลาดน้อย และทำให้สามารถวางแผนในการจัดการธุรกิจได้ต่อไปด้วย

4.ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

ในเมื่อยุคนี้คือ ยุดไอที เราก็ต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ บล็อก ต่างๆ ในการโฆษณาสินค้าหรือบริการ รวมทั้งทำรีวิวต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า และยังเข้าถึงลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัยที่คุณต้องการ โดยหากเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจก็อาจใช้พื้นที่ฟรีในการโฆษณาก่อนก็ได้ เพื่อดูว่า ลูกค้าหรือกลุ่มผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสินค้าของเราได้หรือไม่ และมีความคิดเห็นอย่างไรในสินค้าและบริการของเรา

5.พัฒนาสินค้าหรือบริการของตนเองอยู่เสมอ

เพื่อทำให้ธุรกิจหรือบริการของตนเองนั้น สร้างความประทับใจให้ลูกค้าอยู่เสมอ และมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงด้วย และต้องยอมรับในข้อผิดพลาด จุดบกพร่องที่ลูกค้าติติงมาด้วย และนำมาแก้ไขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าและการบริการต่อไป
ทั้งหมดนี้แหละ คือข้อที่ควรทำสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจในยุคไอที ถ้าทำตามนี้รับรองเลยว่า ธุรกิจของคุณจะไปได้สวยแน่นอน

Filed Under: BUSINESS

ไอเดียเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว หาได้จากไหน?

พฤศจิกายน 21, 2018 By Antfly

จุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพและการทำธุรกิจส่วนตัว ก็คือไอเดีย ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าจะหาไอเดียแปลกใหม่ได้จากที่ไหน ลองนำแนวคิดที่จะแนะนำในต่อไปนี้ ไปปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการของตัวคุณมากที่สุด ซึ่งมันจะเป็นเรื่องใกล้ๆตัวที่คาดไม่ถึงมาก่อนก็เป็นได้

หญิงกำลังต่อจิ๊กซอว์ที่เปรียบเสมือนการเริ่มต้นธุรกิจ

1. ในโลกของคุณ

โลกของคุณ ในที่นี้ก็หมายถึง การใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และความถนัด ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือสังเกต เรียนรู้และศึกษาตัวเองให้มากขึ้น เพื่อค้นหาความสามารถที่ก่อให้เกิดไอเดียธุจกิจใหม่ๆได้

2. ความคิด “ด้านไม่ดี” ของคุณ

มีเจ้าของธุรกิจหลายคนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความคิดที่มันไม่น่าเกิดขึ้นหรือไม่น่าเป็นไปได้ คุณอาจรู้สึกว่าบางความคิดเหล่านั้นมันช่างไร้สาระ โง่เขลาและไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเวลาผ่านไป ความคิดสร้างสรรค์พวกนั้นมันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึงเลย ดังนั้น หากเกิดไอเดียอะไรขึ้นก็ตาม สิ่งที่ควรทำทันทีคือจดหรือบันทึกไว้ อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้

3. การทำงานร่วมกัน

อาจมีบางครั้งที่ไอเดียของคุณ ไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวคุณเพียงลำพัง แม้แต่การคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีที่สุดในโลก ก็ไม่ใช่ความพยายามของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความพยายามร่วมกัน การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกันอาจนำไปสู่แรงบันดาลใจในระดับที่เป็นจริงได้ เหมือนคำกล่าวที่ว่า “คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย”

4. เพื่อนและครอบครัว

การพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องจำกัดแค่คนที่มีใจรักในธุรกิจเท่านั้น จริงๆแล้วการพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวแบบไม่คาดหวัง ก็สามารถกลายเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่ไอเดียธุรกิจได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น กรณีที่คนในครอบครัวมีปัญหาเรื่องการรับฟัง สิ่งที่เขาหรือเธอได้ระบายออกมา อาจทำให้เกิดแนวคิดในการพัฒนาอุปกรณ์ช่วยฟังเพื่อรองรับปัญหานี้ และต่อยอดเพื่อสร้างธุรกิจได้

5. สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว

ทุกสิ่งรอบๆตัว ที่ได้เผชิญอยู่ทุกวัน สามารถนำมาเป็นไอเดียสร้างธุรกิจได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหา และต้องการการพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไข หรือเรียกง่ายๆว่า การพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สิ่งสำคัญคือการจดบันทึกสิ่งใหม่ๆ เก็บไว้ในสมาร์ทโฟน หรือสมุดบันทึกทุกครั้ง เพื่อวิเคราะห์โอกาสและความเป็นไปได้นั่นเอง

Filed Under: BUSINESS

พฤติกรรมที่ทำร้ายมือถือของคุณอย่างไม่น่าเชื่อ

พฤศจิกายน 20, 2018 By Antfly

โทรศัพท์มือถือนั้นเป็นอุปกรณ์ ที่มีราคาแพง ดังนั้นไม่ว่าใครต่างก็ต้องใช้งานมันอย่างทะนุถนอม เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของมันให้ยาวนานที่สุด อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการใช้งานมือถือบางอย่างของหลายๆ คนกลับเป็นตัวการทำร้ายมือถือให้พังเร็วมากขึ้นซะอีกครับ เราลองมาดูกันดีกว่าว่า มีพฤติกรรมแบบไหนบ้าง

พฤติกรรมทำร้ายมือถือ

  • คุณใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเสมอๆ: ไม่น่าเชื่อครับ ว่าพฤติกรรมการใช้งานแบบนี้ ทำให้เครื่อง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ของคุณนั้นเสื่อมสภาพได้เร็วมากๆ สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า แบตเตอรี่ในปัจจุบัน ที่นิยมนำเอามาใช้ในโทรศัพท์มือถือ มันเป็นแบตฯ แบบ ลิเธียม ไออน ซึ่งมันจะเป็นเซลล์แบตเตอรี่ ที่ไม่เหมาะกับการใช้งานจนพลังงานหมด จำเป็นจะต้องมีพลังงานส่วนหนึ่งหล่อเลี้ยงมันอยู่เสมอ ดังนั้นหากคุณใช้งานให้แบตหมดเป็นประจำ จะพบได้เลยว่าแบตเตอรี่มือถือของคุณเสื่อมได้ง่ายมากๆ ทางแก้คือเปลี่ยนวิธีการใช้งานครับ โดยไม่ควรปล่อยให้พลังงานต่ำกว่า 30% พอพลังงานถึง 30% แล้วก็รีบเสียบสายชาร์จไว้เลยจะดีกว่า
  • คุณทำมือถือตกพื้นบ่อยครั้ง: อันนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ เพราะการทำมือถือหล่นลงพื้นบ่อยๆ นอกจากจะเสี่ยงในการทำให้หน้าจอแตกแล้ว แรงกระแทกยังอาจจะทำให้มือถือของคุณเกิดความเสียหายจากด้านในด้วย เพราะอย่าลืมว่ามือถือยุคนี้ มีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่เปราะบางจำนวนมาก เมื่อเจอกับแรงกระแทก ชิ้นส่วนอาจหลุด หรือ แตกหักเสียหายได้นั่นเอง วิธีการป้องกัน ก็คือระมัดระวังเวลาใช้งาน หรือหาเคสกันกระแทกมาใช้ จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้เยอะครับ
  • ใช้งานระหว่างชาร์จแบตเตอรี่: หลายๆ คนชอบทำแบบนี้ โดยหารู้ไม่ว่าจะเป็นตัวการทำให้มือถือพังได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะส่วนของแบตเตอรี่ ทั้งนี้เพราะว่า ระหว่างการประจุไฟเข้าเครื่อง แล้วคุณดันไปใช้งานเครื่องในระหว่างนั้น มันจะทำให้เกิดความร้อนสูงมาก และอาจสะสม จนส่งผลต่อชิ้นส่วนภายใน ที่มีความละเอียดอ่อนด้วย ดังนั้น หากคุณใช้งานในลักษณะนี้เป็นประจำ จะพบได้เลยว่าเครื่องพังค่อนข้างเร็ว วิธีแก้ก็ง่ายๆ ครับ เลิกใช้งานขณะที่กำลังชาร์จเครื่องอยู่ รอให้เครื่องประจุพลังงานเต็มก่อนค่อยใช้งานก็ยังไม่สาย
  • คุณใช้งานที่ชาร์จไฟไม่ตรงกับรุ่น: รู้มั้ยครับ ว่าที่ชาร์จไฟของมือถือแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ นั้นไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ เพราะอาจจะมีการปล่อยไฟที่แรงดันต่างกัน เมื่อนำเอามาใช้ต่างรุ่นกัน ก็อาจจะทำให้อุปกรณ์นั้นเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากมือถือส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ของมันเท่านั้นนั่นเอง
  • คุณเอามือถือไว้หน้ารถเป็นประจำ: การเอามือถือไว้หน้ารถยนต์ (บริเวณคอนโซล) มักจะทำให้มือถือเสื่อมสภาพเร็วครับ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณ ที่แสงแดดส่องเข้ามาได้แรงที่สุด เมื่อคุณวางมือถือเอาไว้บริเวณนั้น มันก็โดนแดด และความร้อนเต็มๆ ส่งผลทำให้ชินส่วนในมือถือนั้น พัง หรือเสียหายได้ง่ายนั่นเอง ดังนั้นเตือนตัวเองไว้เสมอ ว่าไม่ควรวางมือถือเอาไว้บริเวณคอนโซลหน้ารถครับ

Filed Under: TECH Tagged With: MOBILE

ไม่น่าเชื่อ 5 สิ่งต่อไปนี้ ทำให้แบตมือถือหมดเร็วกว่าปกติ

พฤศจิกายน 20, 2018 By Antfly

อาจจะมีบางครั้ง ที่เมื่อเราใช้งานมือถือแบบสมาร์ทโฟนแล้ว รู้สึกว่าแบตเตอรี่ มันหมดเร็วกว่าปกติ ซึ่งนี่ไม่ใช้เรื่องที่คิดกันไปเองนะครับ เพราะการใช้งานในบางรูปแบบอาจจะส่งผลทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นก็เป็นได้ ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่มือถือของคุณหมดเร็วได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ

  1. เปิดแสงสว่างหน้าจอสูงสุด: แน่นอนว่าเมื่อหน้าจอสว่างมากขึ้น ก็ย่อมจะต้องกินพลังงานมากขึ้นเช่นกัน ทีนี้เมื่อคุณเปิดแสงสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ตลอดเวลา ย่อมทำให้เกิดการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วมากกว่าปกตินั่นเอง ดังนั้น เมื่อคุณรู้สึกว่าแบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วกว่าปกติ ให้เข้าไปดูที่การตั้งค่าหน้าจอเลยว่า คุณได้เปิดแสงสว่างของหน้าจอมากเกินไปหรือไม่ และสามารถพิจารณาลดแสงลงเพื่อประหยัดพลังงานได้ครับ
  2. คุณเลือกใช้โหมดทำงานเต็มประสิทธิภาพ: ในกรณีที่เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์(บางรุ่น) จะมีโหมดให้เลือกว่าคุณต้องการใช้งานมือถือแบบไหน โหมดเน้นประสิทธิภาพ หรือโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งแน่นอนว่าโหมดเน้นประสิทธิภาพ มักจะกินพลังงานสูงกว่าเสมอ ดังนั้นในเวลาที่คุณไม่ได้ใช้งานเครื่องมากนัก ก็อาจจะเลือกโหมดประหยัดพลังงาน เพื่อไม่ให้แบตมือถือหมดเร็วกว่าปกติก็ได้
  3. เปิดแจ้งเตือนมากเกินไป: สำหรับการเปิด Notification ของโปรแกรมมากเกินไปนั้น ย่อมจะทำให้เครื่องของคุณแบตเตอรี่หมดเร็ว เพราะการเปิด Notification นั้น(รวมถึง LED แจ้งเตือน) เครื่องจะยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังตลอด ดังนั้นยิ่งปิดแจ้งเตือนจำนวนมาก ก็จะยิ่งทำให้ตัวแอพต่างๆ นั้นสูบพลังงานไปนั่นเอง วิธีแก้คือการเปิดแจ้งเตือนสำหรับแอพที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ เท่านั้นครับ
  4. เคลียร์แรมบ่อยเกินไป: หลายคนมีความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการปล่อยให้โปรแกรมทำงานอยู่เบื้องหลังมากเกินไป ส่งผลทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ก็เลยชอบเคลียร์แอพที่ค้างอยู่ในแรมทิ้ง เวลาจะใช้ค่อยเปิดใหม่อันนี้บอกเลยกินแบตมากครับ เพราะแอพที่เปิดใหม่นั้น มักจะต้องใช้การประมวลผลใหม่หมด ส่งผลทำให้มันกินพลังงานมากขึ้น แบตก็เลยหมดเร็ว ดังนั้นหากไม่อยากให้เครื่องแบตหมดเร็ว ก็อย่าเคลียร์แอพทิ้งบ่อยเกินไป และเลือกเคลียร์เฉพาะแอพที่ไม่ได้ใช้งานจริงๆ เท่านั้น
  5. เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา: แน่นอนว่าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะผ่านวาย ฟาย หรือผ่านเครือข่าย ย่อมจะทำให้มีการบริโภคพลังงานจากแบตมากขึ้น เพราะมีการส่งผ่านข้อมูลอยู่เสมอ ดังนั้น หากคุณต้องการประหยัดแบตให้ใช้คุ้มวัน ก็ควรจะเลือกเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เฉพาะเวลาที่ใช้งานจริงๆ เท่านั้นครับ เพราะที่จริงคนเราก็ไม่ได้มีเรื่องจำเป็นให้ต้องต่อเน็ตอยู่ตลอดเวลาหรอกจริงมั้ยครับ

Filed Under: TECH Tagged With: MOBILE

  • « Previous Page
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • …
  • 6
  • Next Page »

โพสท์ล่าสุด

  • คีโน่ คลาสสิค การเดิมพันรูปแบบตัวเลข สุดเร้าใจ
  • วิธีเล่นบาคาร่า เทคนิคการเล่นบาคาร่าออนไลน์
  • ทำไมคาสิโนมือถือถึงได้รับความนิยม และจะเป็นอนาคตของการพนันออนไลน์?
  • Star Wars Jedi: Fallen Order เปิดตัวพร้อมเผยข้อมูลเรื่องราวภาคต่อจาก Revenge of the Sith !!
  • รีวิวเกมยิงปลา เทคนิคการเล่นเกมยิงปลาออนไลน์

หมวดหมู่บทความ

  • BUSINESS
  • FOREX
  • GADGET
  • GAME
  • TECH
  • TRADING
  • Uncategorized

เว็บไซต์แนะนำ

  • คาสิโนออนไลน์
  • ข่าวออนไลน์
  • ข่าวฟุตบอลออนไลน์